สวัสดีครับ เรื่องที่ผมจะนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ ผมอยากให้ท่านที่กำลังดื่ม กิน หรือสนใจในการใช้สมุนไพร โดยเฉพาะสมุนไพร คาวตองที่ผลิตโดยกรรมหมักชีวภาพและทำเป็นผงแห้งโดยวิธีพิเศษ ซึ่งในบทความนี้จะขอเรียก “คาวตองแคปซูล” และสมุนไพรคาวตองที่ผลิตโดยกรรมวิธีการหมักชีวภาพและเพิ่มกรรมวิธีพิเศษบาง ประการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งก็จะขอเรียกว่า “คาวตองชนิดน้ำ” ก็แล้วกันนะครับ ในขณะที่ท่านใช้สมุนไพรคาวตองทั้งแบบแคปซูลและแบบน้ำ ที่ส่วนใหญ่มักเกิดการกระทุ้ง ท่านจะปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้สามารถทนอยู่กับการกระทุ้งได้ตลอด จนอาการป่วยที่ท่านเป็นอยู่ดีขึ้น พร้อมกับร่างกายกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
“การกระทุ้ง” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Healing Crisis บาง แห่งเรียกว่า “ภาวะซ่านพิษ” จากบทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย รองศาสตราจารย์รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล เรื่องยาเขียว ยาไทยใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก มีข้อความหนึ่งที่เขียนถึงคำว่ากระทุ้งดังนี้ “ ยา เขียวเป็นตำรับยาไทย ตามองค์ความรู้ของแพทย์แผนไทย หรือหมอพื้นบ้าน ที่มีการใช้กันมานานหลายทศวรรษ และเป็นตำรับที่ยังมีการผลิตขายทั่วไปตราบจนปัจจุบัน ประชาชนทั่วไปในสมัยก่อนจะรู้จักวิธีการใช้ยาเขียวเป็นอย่างดี กล่าวคือ มักใช้ยาเขียวในเด็กที่เป็นไข้ออกผื่น เช่น หัด อีสุกอีใส เพื่อกระทุ้งให้พิษไข้ออกมา เป็นผื่นเพิ่มขึ้น และหายได้เร็ว” ซึ่งจะเห็นได้ว่า คำว่า กระทุ้งเป็นคำที่ใช้ในวงการยาของไทยมาแต่โบราณ ในเอกสารข้อมูลที่เขียนเกี่ยวกับการกระทุ้งในต่างประเทศก็กล่าวถึงการ กระทุ้งไว้มากมายเช่น บทความชื่อ “การเข้าใจการกระทุ้ง” เขียนโดย ดร.Ginger Chalford, Ph.D ที่กล่าวว่า การกระทุ้งเป็นสิ่งปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในร่างกายที่จะหาวิธีเข้าถึงสุขภาพที่ ดีให้ได้โดยการขับของที่ไม่ดีออกจากร่างกาย ซึ่งเมื่อการขับออกได้เริ่มต้นขึ้นมันอาจเกิดขึ้นอย่างเบาบางหรือรุนแรงก็ ได้ทั้งนั้น ในขบวนการกระทุ้งที่เกิดขึ้น ระบบการทำงานทุกส่วนของร่างกายจะออกมาทำงานพร้อมเพรียงกันเพื่อขับสารพิษออก แล้วเริ่มขั้นตอนการสร้างทดแทนใหม่อีกครั้งหนึ่ง เนื้อเยื่อเก่าถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อใหม่ อาการเจ็บป่วยจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายพยายามกระทุ้งโรคแต่ไม่สามารถเป็นไปตาม ขั้นตอนได้จะด้วยสาเหตุใดๆหรือหลายสาเหตุก็ตาม ในขบวนการกระทุ้งระบบของร่างกายจะถูกปิดกั้นชั่วขณะกลายเป็นเสมือนเขื่อนที่ กักสารพิษรอเวลาแตกทะลักออกมา ซึ่งจะแตกต่างจากการขับถ่ายที่ระบบของร่างกายจะไม่ถูกปิดกั้นโดยจะขับออก ถ่ายออกอย่างเสรี บางครั้งการกระทุ้งจะรุนแรงกว่าอาการของโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ก่อน แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นของการกระทุ้ง ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว การกระทุ้งมักจะเป็นการรื้อฟื้น หรือเตือนความทรงจำอาการของโรค ที่เคยเป็นมาในอดีตที่คนมักจะลืมอาการขณะป่วยไปแล้ว และนำเอาสิ่งที่เคยเกิดขึ้น มาเปิดการแสดงให้เราเห็นชัดๆ ในขณะเกิดการกระทุ้ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบของร่างกาย ที่กำลังทำงานได้ปฏิบัติงาน บอกออกมาจากอดีตให้เสร็จสิ้นไปตามบท หรือภาพที่ฉายให้เห็นในการแสดงประมาณนั้นน่ะครับ โดยสิ่งที่สามารถมองเห็นหรือรับรู้การกระทุ้งได้ก็มี อาการผื่นแพ้พุพองโผล่ขึ้นตามผิวหนัง คลื่นไส้ ปวดหัว ง่วงนอน อ่อนเพลียผิดปกติ ท้องผูก ท้องร่วง ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะมีเลือดออกมา รู้สึกเย็นที่หัวและหน้าอก ติดเชื้อในหู ตุ่มหนองพุพองที่ผิวหนังหรืออาการอื่นๆ ที่ร่างกายใช้ขับสารพิษออก เวลาของการกระทุ้งอาจเป็นอยู่ประมาณ 3 วัน แต่หากร่างกายของผู้ป่วยมีกำลังน้อย การกระทุ้งอาจยาวไปเป็นหลายสัปดาห์ ร่างกายผู้ที่เกิดการกระทุ้ง ต้องการของเหลวโดยเฉพาะน้ำเป็นจำนวนมาก เพื่อนำพาสารพิษออกไป ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเวลาที่ต้องพักให้มาก สงบจิตใจหรือความรู้สึกต่างๆ ตลอดจนควบคุมการเคลื่อนไหว ตลอดช่วงที่มีการกระทุ้งอย่างสงบ หากจะนึกตามภาษากำลังภายในของจีน ก็พอเทียบได้กับสำนวนที่ว่า “ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” นั่นเอง การสงบทั้งร่างกายและจิตใจ จะทำให้พลังชีวิตของเรา ได้มีโอกาสในการทำงาน มากกว่าการที่ร่างกายเคลื่อนไหววุ่นวาย หรือโวยวายตลอดเวลา โดยปกติแล้วการกระทุ้งเพียงครั้งเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้โรคหายขาด คนที่กักโรคไว้จนป่วยเรื้อรัง จำเป็นต้องผ่านการกระทุ้งหลายรอบ ซึ่งการกระทุ้งแต่ละรอบก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องใช้เวลามากพอ สำหรับการกระทุ้งเอาโรคเรื้อรังออกมาให้หมด ซึ่งเปรียบเหมือนการแกะหัวหอมออกมาทีละชั้น การกระทุ้งอาจรุนแรงในบางโรค ที่เป็นเรื้อรังมานานโดยเฉพาะโรคมะเร็ง ตับอักเสบ งูสวัด การติดเชื้อไวรัสหรือปอดบวม เป็นต้น
มี บ่อยครั้ง ที่ผู้ป่วยจะเกิดการกระทุ้งเริ่มต้น ในขณะที่เขารู้สึกดีและมีกำลังมากๆ ร่างกายทุกส่วนก็จะเริ่มปฏิบัติงานในขบวนการกระทุ้ง คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามีพละกำลังมาก ขณะขบวนการกระทุ้งเริ่มต้นขึ้น จนกว่าสารพิษทั้งหลาย ได้ถูกเทพรวดลงไปในกระแสเลือด เพื่อเตรียมขับออกจากร่างกาย ให้ท่านปล่อยร่างกายทำงานขับพิษไปอย่างช้าๆ ....ตามที่ระบบทั้งหลายต้องการขับสารพิษ แล้วท่านจะค่อยๆดีขึ้นเอง ในกรณีที่เกิดกระทุ้งรุนแรง การกระทุ้งอาจเกิดบ่อยๆหลายครั้งจนในที่สุด ก็ผ่านพ้นไปได้ และร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติ ก็ต้องคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องปกติของการกระทุ้ง อย่าขุ่นเคืองและมีอารมณ์โกรธแค้น แล้วมีความคิดไปต่อต้านมัน ให้คิดตลอดเวลาว่า “ใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว” ในระหว่างการกระทุ้ง และให้ท่านเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรอรับกับการที่จะต้องถ่ายอุจจาระเสมอ เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก มีคำพูดที่มักพูดกันในวงการแพทย์เสมอว่า “สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้” หากมีท้องผูก ก็ให้ใช้ยาระบายสมุนไพรธรรมชาติ ช่วยเสริมขบวนการกระทุ้งด้วย จำไว้เสมอว่าการกระทุ้งมีคุณค่ามาก ที่เราจำเป็นต้องฝ่าผ่านมันไปให้ได้
การ กระทุ้ง เป็นภาวะคล้ายการเจ็บป่วย หรือรุนแรงมากกว่า มันเกิดจากกรรมวิธีที่ร่างกายรักษาตัวเอง ผ่านการขับสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งการกระทุ้ง เป็นขบวนการย้อนกลับของการบาดเจ็บ แผล การติดเชื้อและการเสียสมดุล ที่เกิดมาเป็นระยะเวลายาวนานของร่างกาย แม้ว่าการกระทุ้งจะทำให้เกิดอาการไม่ค่อยสบายตัวขึ้น แต่การกระทุ้งเป็นเรื่องสำคัญ และมันเป็นสัญญานที่ดีที่แสดงว่า ร่างกายกำลังใช้พลังชีวิตในการรักษาตัวเองอยู่ อาการกระทุ้งที่พบทั่วๆไปก็มี ปวดหัว หน้าแดง ผื่นหรือฝีขึ้นที่ผิวหนัง มีไข้ คลื่นไส้ ปวดตามข้อ มึนงง อ่อนเพลียแปลกๆ นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก อารมณ์พลุ่งพล่าน ซึมเศร้า กระวนกระวาย ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ ท้องผูก ท้องเดิน ร้อนวูบวาบที่หน้า เหงื่อออกตอนกลางคืน และอาการอื่นๆคล้ายไข้หวัดหรือหวัดใหญ่ การกระทุ้งมักเป็นการย้อนรอยของโรคที่ฝังในร่างกายมานานในอดีตเหมือนเป็นปฏิ กริยาย้อนกลับ ซึ่งทำให้โรคที่เคยเป็นมาแต่อดีต ได้ย้อนกลับมาระดมกำลังทำร้ายร่างกายของเราใหม่ เนื่องจากร่างกายขับพิษ ที่โรคดังกล่าวที่ได้เก็บสะสมมันไว้ ในขบวนการเกิดโรคอย่างยาวนานนั้นออกมา ตามอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับถ่ายอย่างเข้มข้น อาการกระทุ้งที่เป็นอาจรุนแรงมากกว่าการกระทุ้งปกติ หากเป็นการกระทุ้งที่เกิดขึ้นกับโรคร้ายแรงที่เคยเป็นมาก่อนเช่น การกระทุ้งของโรคมะเร็ง ตับอักเสบ งูสวัด การติดเชื้อไวรัสหรือปอดบวม เป็นต้น
จำ ไว้เสมอว่า อาการกระทุ้งแปลกๆที่เกิดจากการกระทุ้ง มักจะเข้มข้นรุนแรงกว่าอาการของโรคที่เกิดขึ้น หรือกำลังรักษาอยู่ แต่การกระทุ้งเป็นเรื่องชั่วคราว และเป็นการปูเส้นทางไปสู่สุขภาพที่จะสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งขบวนการกระทุ้ง มักคงอยู่ราว 2-3 วันแต่ก็อาจยาวนานได้หลายสัปดาห์ บางทีอาจมีการกระทุ้งหลายรอบ จนกว่าโรคจะหายไปได้ ซึ่งมักเกิดในกรณีโรคที่ร้ายแรงเช่นมะเร็ง ลิ้นหัวใจรั่วเป็นต้น โดยในขณะที่เกิดขบวนการกระทุ้งขึ้น ระบบมากมายของร่างกาย จะทำงานร่วมกันเพื่อขจัดของเสียและพิษออกไป และเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปได้เสียครั้งหนึ่งแล้ว ร่างกายก็จะมีสุขภาพดีกว่าและแข็งแรงกว่าเดิมเสมอ เมื่อต้องการการลดอาการกระทุ้งลง เพราะทนอาการไม่ไหวหรือเกิดการกระทุ้งที่รุนแรงมาก ก็ให้ดื่มน้ำมากๆ หรือนอนพักมากๆ เพื่อเจือจางสารพิษที่ถูกขับออกจากร่างกาย หรือการนอนก็จะเป็นการลดความเร็วของการขับสารพิษลง ขอให้นึกเสมอว่าการกระทุ้งเป็นสิ่งที่ดี แม้ว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกแย่ แต่มันคือสัญญานบอกถึงภาวะที่กำลังขับสารพิษ สิ่งสกปรก และความไม่สมดุล ออกจากร่างกาย การกระทุ้งบอกให้เรารู้ว่าการสร้างสุขภาพดีและความแข็งแกร่งเดินมาถูกทาง แล้ว มีประโยคปลอบใจประโยคหนึ่ง หากนึกถึงเรื่องการกระทุ้งให้คิดถึงคำพูดสั้นๆว่า “ไม่ปวดไม่ได้ผล”
สมุนไพร คาวตองแคปซูปและสมุนไพรคาวตองชนิดน้ำ ทำให้เกิดอาการกระทุ้งในผู้ที่ดื่มกินมากเป็นพิเศษ(จากประสบการณ์ในด้านยามา ตลอดชีวิต ผมยังไม่เคยพบสมุนไพรอะไร ที่กระทุ้งโรคได้มากขนาดนี้มาก่อน) เนื่องจากคาวตองแคปซูล เข้าไปทำงานร่วมกับอวัยวะ หรือเซลล์ที่ไม่ปกติอย่างจริงจัง จึงทำให้สารพิษถูกขับออกมามาก และเข้มข้นในเวลาสั้นๆ ทำให้อวัยวะรายทางที่สารพิษเดินทางผ่าน เกิดการระคายเคืองและเกิดความโกลาหล แล้วแสดงออกด้วยอาการที่แปลกๆเช่นปวด ไข้ เพลียฯที่เราเรียกว่าการกระทุ้ง หรือวิกฤติก่อนหาย จากการออกไปพบ และบันทึกปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่กินดื่มสมุนไพรคาวตอง จำนวนผู้ที่เกิดอาการกระทุ้งจะมีมากราวร้อยละ 80 ทีเดียว และเมื่อเกิดอาการกระทุ้งขึ้น และเริ่มหายไปแล้ว อาการของโรคที่มีในตัวผู้ป่วย ก็จะดีขึ้นโดยลำดับ ซึ่งหากปรากฎการณ์นี้ เป็นเหมือนรูปแบบที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ก็แสดงว่าสมุนไพรคาวตองแคปซูลและน้ำมีฤทธิ์ในการขับสารพิษ รักษาการบาดเจ็บ แผล การติดเชื้อและการเสียสมดุล ที่เกิดมาเป็นระยะเวลายาวนาน ของร่างกายได้ดี ซึ่งข้อมูลที่ได้สอบถามผู้ป่วย เพื่อทำวิจัยภาคสนามในหัวข้อ “ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกินและดื่มสมุนไพรคาวตอง” มานานหลายเดือน ก็ได้ข้อมูลตรงกันว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่จะหายจากโรคที่มีอยู่ได้ดีและเร็ว ก็จะเกิดการกระทุ้งมากด้วยเช่นกัน
ผมได้ออกพื้นที่ไปพบกับผู้ป่วยเกือบทั่วประเทศ ได้พบเห็นกรณีที่สมุนไพรคาวตองของผมกระทุ้งโรคร้อยละประมาณ 80 ซึ่ง ปกติถ้าการกระทุ้งเกิดขึ้น ผู้ป่วยก็จะหายจากโรคแน่นอน เช่นแม่บัวศรี อยู่บ้านยางใหญ่ หมู่บ้านที่มีผู้ที่กินยาคาวตองแคปซูลกันเกือบทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากเมื่อต้นเดือน ก.พ.57 พ่อนง และพ่ออ้อ ที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกับแม่บัวศรี ป่วยเป็นมะเร็งตับและท่อน้ำดี ได้มากินยาคาวตองของผมแล้วอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งสองท่าน แม่บัวศรีซื้อไป 1 แผงจำนวน 10 แคปซูล โดยกินตามคำแนะนำคือครั้งละ 1 แคปซูลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ในคืนแรกหลังจากที่กินแคปซูลที่สองไปสักพัก แม่บัวศรีบอกว่าเกิดร้อนที่ท้องมากๆ เป็นอยู่ราว 30-40 นาที ก็หายไป รุ่งเช้าแม่เขากินต่ออีกครั้ง หลังจากนั้นสักพักก็รู้สึกว่าร้อนกว่าเดิม ระดับความร้อนเหมือนเอาไฟสุมแต่ตำแหน่งที่ร้อนได้ย้ายไปที่ช่องคลอดแทน แต่หลังจากนั้นสัก 30-40 นาที ก็หายร้อน ตอนเย็นก่อนอาหาร แม่บัวศรีก็กินอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เกิดร้อนเหมือนไฟสุมอีก แต่ได้เปลี่ยนตำแหน่งไปเป็นที่ทวารหนักแทนร้อนมากสัก 30 นาที มีความรู้สึกว่าทวารจะโผล่ออกมาข้างนอกดีที่เกิดอาการไม่นานเหมือนสองครั้ง แรก พอเข้านอนก็หลับสบายดีไม่มีอาการอะไรมารบกวน แต่ตื่นมาตอนเช้าปรากฏว่าอาการปวดหัวเข่า แข้งและขาได้หายไปหมดไม่เหลือเลย แต่มีชาหลงเหลือเล็กน้อย อาการกระทุ้งที่แม่บัวศรีได้เล่าให้ผมฟังนี้ นับว่าแปลกไปจากที่ผมเคยพบมากเป็นลักษณะแปลกที่สุด ที่ร่างกายสามารถสร้างความร้อนขึ้นมาได้มากมายแบบนี้ได้อย่างไร จะว่าแม่บัวศรีพูดถึงระดับความร้อนมากเกินจริง ก็อาจไม่ใช่ เนื่องจากในบางสภาวะร่างกายของคนเราอาจผลิตความร้อนออกมามากมายกว่านี้ก็เคย มีบันทึกไว้ในวงการวิทยาศาสตร์ รายของแม่บัวศรี ที่ร่างกายผลิตความร้อนออกมาเป็นสัญลักษณ์ของการกระทุ้งโรคของแม่บัวศรี นับเป็นกรณีกระทุ้งที่สมใจมากของผู้ป่วยเพราะความร้อนคือสัญลักษณ์ของไฟที่ ใช้เผาทำลายล้างโรคและสารพิษที่ทำให้เกิดโรคที่หลายคนคิดอยู่ในใจเมื่อต้อง การเอาไปรักษาโรคเรื้อรัง แต่อาการกระทุ้งของแม่บัวศรี คงอยู่ไม่นานเพียง 2 วัน ก็หายไปพร้อมกับโรคปวดเข่าเรื้อรังก็หายไปด้วย ผมเองก็ทำได้แต่รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคสนามเพื่อให้ท่านได้รับรู้ถึง อาการแปลกๆของการกระทุ้งที่มีมากมายหลายรูปแบบ ไม่มีความเห็นอะไรมากจนกว่าการวิจัยภาคสนามจะเสร็จสิ้นจึงจะสรุปผลเป็น ภาพรวมมาเล่าสู่กันในวันนั้นอีกครั้งหนึ่ง
หมายเหตุ : ข้อมูลที่เขียนในบทความเป็นความเห็นและประสบการณ์เฉพาะของผู้เขียน การนำเอาไปใช้เองต้องผ่านการพิจารณาโดยรอบคอบจากตัวท่านเองและผู้เชี่ยวชาญ ที่เกี่ยวข้องก่อนเสมอ- ภก.อุดม รินคำ
เนื่องจากมีเรื่องของการกระทุ้งให้ผมและทีมงานพบเห็นและได้บันทึกไว้มากมาย ในตอนต่อไปผมจะได้นำมาเล่าสู่ท่านผู้อ่านได้ทราบเผื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบ กับการกระทุ้งที่เกิดกับท่าน ซึ่งผมคิดว่าเรื่องการกระทุ้งนี่ เมืองไทยอาจมีข้อมูลมากกว่าที่ใดในโลก ตัวอย่างผู้ที่เกิดการกระทุ้งเช่น
- คุณนิรมล ยะสาระ อายุ 44 ปี ที่เราไปพบที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นภูมิต้านทานต่ำดื่มคาวตองไปขวดแรกก็มีปวดในกระดูกขา กระดูกซี่โครง ปวดมากจนต้องกินยาแก้ปวดช่วย อาการปวดในกระดูกของคุณนิรมลเป็นอยู่ 7 วันจึงค่อยหายไป
- คุณเสนีย์ คมนา อายุ 48 ปี อยู่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นอัมพฤกษ์จากอุบัติเหตุ ดื่มคาวตองไป 3 วันแรกมีอาการปวดจนเหงื่อโทรมตัว ท้องอืดจนเจ็บต้องกินยาลมช่วย อาการเป็นอยู่ 3 วันจึงดีขึ้น
- คุณวารี ศรีสุคนธ์ อายุ 58 ปี อยู่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ปวดหัวเรื้อรังรุนแรงมากปวดจนร้องไห้ ดื่มคาวตองขวดแรกมีอาการปวดมาก อุจจาระเป็นมูกปัสสาวะมีกลิ่นฉุนมากขึ้น
- คุณแม่อุไร พันธุ์พัฒนกูล อายุ 62 ปี อยู่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นปวด ภูมิแพ้ ดื่มคาวตองขวดแรกเกิดอาการปวดมากขึ้นทั้งตัว
- คุณวันโน ทิพย์รงค์ อายุ 55 ปี อยู่ อ.กะปง จงพังงา เป็นเก๊าต์มา 2 ปี ดื่มคาวตองนัมเบอร์วันไป ราว 3-4 วัน ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเหนียว เป็นมันเวลาถ่ายเสร็จต้องใช้สบู่ล้างมือจึงจะสะอาด
- พ่อคำพร ไชยทุม อายุ 73 ปี อยู่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นกรดไหลย้อน ปวดเข่า ดื่มคาวตองไป 2-3 วัน กระทุ้งเป็นผื่นคันขึ้นทั้งตัว ปวดข้อไหล่เหมือนผ่านการทำงานหนักมาแล้ว
- คุณยินดี ศรีนิ่ม อายุ 46 ปี อยู่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ป่วยเป็นอัมพาตจากกระดูกทับเส้น ดื่มคาวตองไป 5 วัน มีท้องเสียรุนแรงเป็นสีดำๆรวม 10 วัน
- คุณธรรมยุต สังข์รอด อายุ 56 ปี ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมา 11 ปี ดื่มคาวตองแล้วกระทุ้ง มีเจ็บที่หน้าอกมากรวม 7 วัน
- คุณหนูเพียร ชนะกุล อายุ 57 ปี เป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์ มีกระทุ้งโดยถ่ายปัสสาวะทั้งคืน 2-3 วัน
- คุณวรรณี โยมญาติ อายุ 39 ปี เป็นโรคปวดรุนแรงขณะมีประจำเดือน ดื่มคาวตองในครั้งแรกรู้สึกคันยุบยิบไปทั่วตัวแต่หายไปเมื่อดื่มครบ 3 วันก็หายไป