บทความนานาสาระความรู้ด้านสุขภาพและสมุนไพร ของเภสัชกร อุดม รินคำ
สวัสดีครับท่านสมาชิกทุกท่าน ในตอนนี้ผมจะนำเอาข้อมูลเรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และกลไกการออกฤทธิ์ของสารสกัดสมุนไพรพลูคาวหรือคาวตอง ที่ประกอบด้วยพฤกษเคมีที่ซับซ้อน ซึ่งในบทความนี้จะขอเรียกว่า BETA ไปก่อนก็แล้วกันนะครับ ว่ามีกลไกการออกฤทธิ์ต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันอย่างไร มาเล่าให้ท่านฟัง เพื่อใช้เป็นแนวทางการดูแลสุขภาพในกรณีที่ท่านประสบปัญหาเรื่องของโรคที่เป็นอยู่ โดยจะขอนำเอาส่วนที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ได้จริงดังต่อไปนี้ครับ
จากข้อมูลที่ได้จากการวิจัยและประสบการณ์ที่รวบรวมได้จากภาคสนามเพื่อการทำวิจัยต่อยอดในแง่มุมต่างๆเพื่อประโยชน์ในวงกว้าง และโครงการวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องของทีมงานของพวกเรา ภาพรวมกลไกการออกฤทธิ์ต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันของ BETA น่าจะเนื่องมาจากสารเบต้ากลูแคนใน BETA ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตและเพิ่มจำนวนสะเต็มเซลล์ให้มากขึ้นและทำงานดีขึ้น สะเต็มเซลล์เป็นเซลล์ตั้งต้นในการเกิดขึ้นของเซลล์ร่างกายเกือบทุกชนิด สะเต็มเซลล์เป็นเซลล์สำรองที่มีหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์หรืออวัยวะที่ผิดปกติ สึกหรอหรือไม่ทำงาน ให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้
หัวใจเป็นอวัยวะที่จำเป็นที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกาย เซลล์ของร่างกายทั้งหมดต้องอาศัยหัวใจช่วยฉีดเลือดที่มีอาหารและออกซิเจนไปให้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการทำงาน หัวใจหยุดเต้นเมื่อใดเซลล์ร่างกายทุกๆส่วนก็ไม่ทำงานและจะตายในที่สุด ตัวหัวใจประกอบด้วยเซลล์กล้ามเนื้อของร่างกายชนิดหนึ่ง ที่ต้องการเลือดมาเลี้ยงอย่างเพียงพอจึงจะทำงานยืดหดหรือบีบขยายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นว่า หัวใจไม่เพียงแต่บีบเลือดไปเลี้ยงส่วนอื่นๆของร่างกาย แต่จะต้องบีบเลือดไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อของตัวเองด้วย
คนเราเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็ร่วงโรยสึกหรอไปเป็นของธรรมดา ก็เหมือนกับเครื่องยนต์ที่พอใช้ไปนานๆก็ต้องเสื่อม ต้องสึกหรอ หลอดเลือดก็เหมือนกัน พอนานเข้ามันก็จะแข็งตัวไปตามเวลา และพบว่าคนที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไปอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ยิ่งสูงมากขึ้นด้วย โรคนี้มักจะเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และพวกประเภทนั่งโต๊ะทำงาน พวกระดับบริหารทั้งหลายคือพวกที่ใช้มันสมองมากๆ มีความเครียดมากๆ พวกนี้จะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคสูงกว่าพวกที่ใช้แรงงาน
ตามทฤษฎี สะเต็มเซลล์จากไขกระดูกมีความสามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปยังเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจหรืออวัยวะทุกแห่งที่เกิดอักเสบหรือความเสียหายได้ มีการทดลองในต่างประเทศที่ให้สัตว์ทดลองกินสาร Sulfated glucan หรือเบต้ากลูแคนจากผนังเซลล์ยีสต์ในรูปแบบโครงสร้างโมเลกุลที่แตกต่างกันไปหลากหลายรูปแบบ เพื่อไปกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตสะเต็มเซลล์มากขึ้น ซึ่งองค์ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์สะเต็มเซลล์ทำให้เราสามารถอธิบายถึงการที่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันหลายรายอาการดีขึ้นได้ หากเราให้คนที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันได้กินสารที่มีคุณสมบัติกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตสะเต็มเซลล์ได้มากขึ้นเช่น G-CSF หรือเบต้ากลูแคน ที่มีอยู่ในสูตรตำรับของ BETA ที่ผลิตขึ้นนี้ ไขกระดูกก็จะผลิตสะเต็มเซลล์มากขึ้น ออกมาไหลเวียนในกระแสเลือดมากขึ้น สะเต็มเซลล์จำนวนมากก็จะไปเกาะเซลล์หลอดเลือดหัวใจหรือกล้ามเนื้อหัวใจตามสัญญานที่ส่งมาจากเซลล์ที่บาดเจ็บเสียหายแล้วเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ที่เสียหายนั้นๆและทำหน้าที่ของเซลล์นั้นอย่างเป็นปกติอีกด้วย
ในกรณีที่เส้นเลือดตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและตายลง การทำงานของสะเต็มเซลล์ก็จะไปทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดเส้นใหม่ที่จะนำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนที่ขาดอากาศและสารอาหารได้ด้วย ดังนั้นเราจะเห็นว่าข้อมูลจากการทดลองกับหนูทดลองที่ถูกทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วนในต่างประเทศที่แสดงให้เห็นว่าสะเต็มเซลล์จากไขกระดูกสามารถซ่อมแซมกล้ามเนื้อหัวใจให้ดีขึ้นภายในเวลาเพียง 9 วันเท่านั้นเองและกล้ามเนื้อที่ตายส่วนใหญ่ก็กลับดีขึ้นภายในชั่วเวลา 27 วันโดยเฉลี่ย นอกจากนั้นยังพบการสร้างเส้นเลือดใหม่เกิดขึ้นไปพร้อมๆกันด้วย แต่หนูกลุ่มที่ไม่ได้รับสะเต็มเซลล์ส่วนใหญ่จะตายภายใน 6 วัน สำหรับงานวิจัยในต่างประเทศมีการพบว่าสะเต็มเซลล์ที่ฉีดให้กับสัตว์ทดลองสามารถเคลื่อนย้ายไปเกาะกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆได้หลายอวัยวะรวมทั้งมันจะสามารถไปเกาะซ่อมแซมเนื้อเยื่อหรือเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อนั้นได้โดยการสร้างเส้นเลือดใหม่หรือ ซ่อมแซมเส้นเลือดเดิมที่มีปัญหาการอุดตันหรือเสียหายได้ด้วย
สรุปจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ที่กิน BETA แล้วอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนว่า เป็นกลไกการทำงานของสะเต็มเซลล์ที่เข้าไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อหัวใจและสร้างเส้นเลือดใหม่ให้ไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับที่เกิดขึ้นในหนูทดลองที่กล่าวถึงเหล่านั้นนั่นเอง ผมมีตัวอย่างหนึ่งในผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจอุดตัน แล้วใช้ BETA เป็นการแพทย์ทางเลือกมาเล่าให้ฟังดังนี้
คุณสมศรี อยู่ ต.ในเมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ป่วยด้วยโรคความดันสูง(195) ตะคริว โรคหัวใจ มีมึนหัว ไปรักษาตัวที่ รพ.เอกชนชื่อดังใน จ.ภูเก็ต หมอบอกว่าเป็นหัวใจโต ตอนกลางคืนเวลานอนจะเป็นตะคริวที่น่องรักษาตัวมาตลอดปีกว่า อาการก็ไม่ดีขึ้น เริ่มเพลียมากขึ้น เดินได้ไกลเพียง 8-10 เมตร ก็เดินโดยไม่พักก็ไม่ไหว ตอนหลังลุกขึ้นยืนไม่ได้เลย ต้องนอนกินยาเพียงอย่างเดียว ได้กิน BETA ไปช่วงแรกประมาณ 10 วันก็มีอาการตึงที่หลังมาก หลังจากนั้นอาการเริ่มดีขึ้น สามารถเดินรวดเดียวได้ไกลถึง 150 เมตร โดยไม่เหนื่อยและเดินแบบคล่องแคล่ว หน้าตาสดใสขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยพูดแต่ตอนนี้พูดได้คล่องตลอดเวลา เจริญอาหารดีมาก
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2557 ผมและทีมงานได้เดินทางไปพบคุณธรรมยุต อายุ 56 ปี อยู่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจโดยเป็นโรคเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน มีอาการปวดอก ร้าวไปที่สะบักหลังอาการนี้เกิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 คุณธรรมยุตได้ไปตรวจที่ รพ.ใน จ.กระบี่แห่งหนึ่งและไปรับการรักษาเป็นประจำมาตลอด เคยไปตรวจที่ รพ.ใน จ.ภูเก็ต เสียค่าตรวจเช็คหัวใจสามหมื่นบาท ในที่สุดทาง รพ.แนะนำให้ทำบอลลูนเส้นเลือดหัวใจแต่ก็คุณธรรมยุตก็ไม่ได้ทำตามที่แนะนำ และคุณธรรมยุตได้ไปตรวจเช็คซ้ำที่ รพ.ในจังหวัดสุราษฏร์ธานีเพื่อจะเลือกวิธีในการรักษาตัว อาการที่เป็นโรคหัวใจของคุณธรรมยุตก็มีมีอาการเพลียเช่นเดินไกลสัก 50 เมตรก็เพลียมาก ได้ยินเสียงดังก็จะตกใจมีอาการวูบวาบร้อนไปทั่วตัว ครั้งแรกเมื่อได้กิน BETA คุณธรรมยุตบอกว่าอาการต่างๆก็เริ่มดีขึ้นตั้งแต่กินในเดือนแรก โดยเฉพาะใน 7 วันแรกที่กินก็เกิดการกระทุ้งโดยเจ็บที่หน้าอกมาก มีร้อนวูบวาบตามหน้าและลูกตา เป็นอยู่ 7 วัน อาการต่างๆจึงดีขึ้นและก็เริ่มเบาสบายที่หน้าอกลงเรื่อยๆ หลังจากนั้นได้กิน BETA ต่อเรื่อยๆจนครบ 6 เดือน อาการเพลียที่เคยเป็นหายไปหมดแล้ว สามารถออกกำลังกายได้ปกติ เดินไกลและปั่นจักรยานได้โดยไม่เหนื่อย
แม่พานทอง อายุ 52 ปี อยู่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ไทรอยด์เป็นพิษ เนื้องอกที่โพรงมดลูก 3 ก้อน(1-3 ซม.) มีหัวใจโตมีเพลียมาก น้ำหนักลดจาก 56 กก.ลดเหลือ 45 กก.ภายใน 1 เดือน กิน BETA แล้วนอนหลับดี กินอาหารได้ ผ่านไป 1 เดือน ค่าฮอร์โมนลดลงเร็ว หมอให้หยุดยาแก้โรคหัวใจกินต่ออีก 1 เดือนก้อนเนื้อหายไป หลังกินไป 2 เดือน ตรวจเลือดใหม่ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นปกติ น้ำหนักกลับมาเท่าเดิม
แม่กองแก้ว อายุ 64 ปี อยู่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ปวดหลัง เป็นไตบวมมีความดัน ปวดเข่า เป็นโรคหัวใจ อาการไตบวมทำให้เบื่ออาหาร อาเจียนออกมาหมด บวมทั้งตัว ปวดเข่าทำให้ยืนลำบาก ปวดชาที่ฝ่าเท้า กิน BETA ไป 3 วัน ก็มีอาการเหมือนมีไข้ขึ้น มีบวมด้วย แล้วค่อยๆลดบวมลง อาการปวดหลังร่วมจากร้อนท้อง ก็ดีขึ้น ปัสสาวะเคยมีเป็นเหมือนฟองเบียร์ ปัจจุบันหลังกินไปเกือบ 3 เดือน ปัสสาวะใสดีแล้ว ไม่ปวดที่ไหนอีก สามารถไปทำงานหนักได้ทั้งวัน ตอนนี้อาการไตบวมหายไปแล้ว เจริญอาหารดี ไม่อาเจียนแล้ว
แม่พะเยาว์ อายุ 72 ปีอยู่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ป่วยมา 20 ปี โรคที่เป็น โรคหัวใจ, ไส้ติ่ง, ไขมันในเส้นเลือด, ความดันสูง, เบาหวาน,กระเพาะทะลุ, ไส้เน่า, โรคไตวาย, เบาหวานขึ้นตา อาการโรคหัวใจ เลือดฉีดเข้าหัวใจไม่เพียงพอ โรคไขมันในเส้นเลือด พลิกตัวยาก ปวดหัว ความดันสูง น็อก เป็นลมใส่ไส้ปลอมตอนผ่าตัดไส้ติ่ง แล้วมันเน่า โรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือด 200-300 ตอนนี้ลดลงเหลือ 150 กินยามากเกินไปเลยเป็นโรคไต สมัยก่อนเดินไม่ได้เลย หลังทาน BETA จากที่เส้นเลือดตีบที่หัวใจ มีความรู้สึกว่าหัวใจมีเลือดมากกว่าเดิม เดินได้ปกติ โรคไต ตอนแรกหมอบอกต้องล้างไต แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว ก่อนกิน BETA น้ำหนักตัว 62 กก. หลังกินเพิ่มเป็น 65 กก. รู้สึกอายุลดลงเหมือนคนอายุ 20 ปี รอดตายจากโรครุมเร้า ผิวพรรณตอนเป็นโรคใหม่ๆ ตัวดำ จนเขียว กินคาวตองไป ดีขึ้น กลับมาสีผิวธรรมดาปกติ
บังผล อายุ 55 ปี อยู่หมู่ 11 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ เคยมาสัมภาษณ์ ธ.ค.56 หลอดเลือดหัวใจอุดตันจากลิ่มเลือดจากการได้กินยาแก้กระดูกทับเส้นจาก รพ.กระบี่มาประมาณ 1 ปี อาการกระดูกทับเส้นดีขึ้น แล้วทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันหัวใจ ทำให้เจ็บแน่น ตรงหัวใจ หัวใจเต้นตุ๊บๆ อาการจะเป็นหนักมาก เวลามีเสียงดังจะตกใจแม้เสียงเด็กร้องก็จะตกใจเหมือนมีเสียงมาร้องในหัวใจ ต้องบีบคอให้เด็กหยุดร้องหรือเดินไปที่อื่น ฝนตกฟ้าร้องก็ตกใจจนยืนนิ่ง เครื่องเสียง ทีวี ดัง ก็ตกใจ อารมณ์หงุดหงิดอย่างรุนแรง ต่อมาตามด้วยถึงจะมีเหนื่อยหอบ ถูกแสงแดดร้อนจัดหน้ามืด เหมือนจะเป็นลม การทำงานหากขุดหลุมยางพาราก็ขุดได้ไม่เกิน 3 จอบ ต้องหยุดทันทีเนื่องจากแน่นในอก หัวใจเต้นแรงตูมๆ เหงื่ออกแน่นหน้าอก เป็นมาประมาณสัก 1 ปีโดยไม่สามารถทำงานได้เลย หายามาต้มกินเรื่อยก็พอทุเลาอยู่ได้ไปวันๆ ยกของคือสายน้ำหนักราว 10 กก.ก็ช็อคหามเข้า รพ. รู้สึกโอกาสรอด 50 ต่อ 50 ความรู้สึกขณะนั้นอยากให้จบไปเลยอย่าให้เจ็บอยู่อย่างนั้น คิดว่าหากเป็นของที่มันแตกได้ก็ให้แตกไปเลย ตอนที่ป่วยและมีคนขับรถพาส่ง รพ. ขณะติดไฟแดงก็รู้สึกนานมากเจ็บตลอดทางอยากให้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวเดี๋ยวนั้นเลย อยู่ รพ.5 วัน จึงให้กลับบ้าน ในครั้งหลังที่เข้า รพ.อีกหมอให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน ตอนกลับมานอนที่เปลหน้าบ้านมีคนมาบอกว่าลองกิน BETAจะดีขึ้น ตอนนี้กินมาประมาณ 5 เดือน เริ่มกินไปวันที่ 2 กระทุ้งทำให้ร้อนหน้าตาอยู่ไม่สุข ต้องใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำเย็นคลุมหน้า ไม่ถึง 5 นาทีผ้าก็แห้ง กระทุ้งอยู่ 2 วัน หลังจากนั้น 3-5 วัน อาการดีขึ้นเรื่อยๆ อาการขี้ตกใจก็หายไป ทำงานหนัก แบกไม้ได้
หมายเหตุ : ผลลัพธ์ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ
จากการบอกเล่าของบังผลว่าก่อนเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันที่หัวใจ บังผลรักษาโรคปวดจากกระดูกทับเส้นมาก่อน เราไม่รู้ว่าบังผลกินยาแก้ปวดอะไร ซึ่งหากได้รับยาแก้ปวดประเภท COX-2 ที่เป็นยาพวก ไอบูโปรเฟน ไดโคฟีแนคหรือไพร็อกซิแคม ที่เป็นที่นิยมใช้กับผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่สามารถจ่ายค่ายาในราคาแพงๆได้ ยากลุ่มนี้ก็จะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดลิ่มเลือด จากการศึกษาโดยนักวิจัยมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจ และวิทยาลัยการแพทย์และทันตศาสตร์ควีน แมรี่ พบว่ายาแก้ปวดชนิด COX-2 ไม่ได้หยุดการสร้างสารปวดคือ Prostaglandin ตรงเป้าหมายที่ COX-2 เท่านั้น แต่มันยังไปออกฤทธิ์ตรง COX-1 ที่อยู่ภายในเยื่อบุผนังหลอดเลือดทุกแห่งอีกด้วย เซลล์ที่มี COX-1 ทำหน้าที่ผลิตสารชื่อ prostacyclin ที่ทำให้เลือดไม่เกาะตัวกันและช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ดังนั้นหากใครกินยาแก้ปวดกลุ่ม COX-2 ต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดลิ่มเลือด และเลือดไหลเวียนลำบาก เสี่ยงต่อโรคหัวใจวายและลมปัจจุบัน(เส้นเลือดในสมองอุดตัน)ได้ จะเห็นได้ว่าบังผลได้กินยาที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือดไปเลี้ยงที่หัวใจ BETA ที่มีสารเบต้ากลูแคนเป็นส่วนผสม จะไปกระตุ้นให้ไขกระดูกของบังผลให้ผลิตสะเต็มเซลล์ให้ออกมาไหลเวียนในกระแสเลือดมากขึ้น ปกติสะเต็มเซลล์จะเป็นเซลล์สำรองที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อให้ไปซ่อมแซมเซลล์ เนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่ทำงานผิดปกติหรือมีการอักเสบ โดยสารชีวเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้สะเต็มเซลล์เคลื่อนที่เข้าไปซ่อมแซม ซึ่งการซ่อมแซมนี้เกิดขึ้นในร่างกายของเราตลอดเวลาทุกวันโดยสะเต็มเซลล์ที่มีประจำอยู่ในอวัยวะนั้นๆไม่ให้เกิดการอักเสบหรือทำงานผิดปกติ เมื่อมีการอักเสบ เจ็บปวดหรือความผิดปกติตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะเกิดขึ้นมานานเป็นเรื้อรังแสดงว่าร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมได้ทัน เส้นเลือดที่ถูกอุดตันโดยลิ่มเลือดของบังผลจนเกิดอาการของลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดอาการแน่นจุกอก เหนื่อยหอบ ตกใจง่ายและมีอารมณ์หงุดหงิด ก็แสดงว่าสะเต็มเซลล์ประจำถิ่นมีจำนวนน้อยไม่สามารถไปซ่อมแซมให้ความเสียหายกลับมาเป็นปกติได้ เมื่อบังผลกิน BETA เข้าไป สะเต็มเซลล์ในกระแสเลือดของบังผลได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น หมายความว่าเซลล์สำรองที่มีหน้าที่ซ่อมแซมมีมากขึ้น และเมื่อกิน BETA ทุกวันก็จะส่งผลให้สะเต็มเซลล์เพิ่มมากขึ้นทุกวัน สามารถซ่อมแซมส่วนที่เสียหายเช่นเส้นเลือดที่อุดตัน ลิ่มเลือดที่มาอุดตัน เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่เสียหายเนื่องจากการขาดเลือดและอากาศ ให้กลับมาเป็นปกติ ในที่สุดอาการหัวใจอุดตันจากลิ่มเลือดของบังผลก็ดีขึ้นจนมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติ
มีผู้คนในสังคมมากมายที่เป็นเหมือน แม่กองแก้วหรือแม่พะเยาว์หรือบังผล ที่สะสมโรคเสื่อมและอาศัยกินยาหลายชนิดมานานจนกระทั่งร่างกายแบกรับไว้ไม่ไหว ไม่สบายมานานจนวันหนึ่งก็ป่วยด้วยโรคหลายๆชนิดออกมาพร้อมๆกัน สุภาษิตไทยบอกว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย และการป้องกันเป็นการดูแลสุขภาพที่ต้นทุนต่ำกว่าการรักษา ลองนึกดูว่าหากแม่กองแก้วเข้ารับการรักษาตามแพทย์กระแสหลัก ท่านต้องกินยาวันละกี่เม็ดสำหรับการป่วย 7 โรค ผมเคยอ่านเอกสารงานวิจัยคนป่วยที่นอนในโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา คนไข้ที่เป็นหลายโรคแบบแม่กองแก้ว อาจต้องได้กินยาสูงสุดถึง 32 ชนิด .....นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าหากเป็นเรา จะทำอย่างไรกันกับยา 1 กำมือครับ
Ref: Why COX-2 inhibitors such as Vioxx can cause heart attacks and strokes. http://www.news-medical.net/news/2006/12/02/21158.aspx/ Acceseed on Wednesday, June 04, 201
คาวตองแม็กซ์ หาชื้อได้ที่ ศูนย์จำหน่ายคาวตองสมุนไพรไทย เรดิโอ ซ๊อป โดยทีมงานคุณอาคม ถ.กระบี่ 500 เมตรก่อนถึง4แยกคลองจิหลาด สมุนไพรไทย ที่คลองใจทุกๆท่านมาร่วม 8 ปีแล้ว สั่งซื้อวันนี้บริการจัดส่งทั่วประเทศไทย ถึงภายในสองวันทำการ รับประกันแน่นอน ขอบพระคุณพี่น้องทั่วไทยต่างให้ความใว้วางใจมาด้วยดีโดยตลอด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอาคม 081 089 8381