Ammapurkจากข้อมูลที่ได้จากการวิจัยและประสบการณ์ที่รวบรวมได้จากภาคสนามเพื่อการทำวิจัยต่อยอดในโครงการชื่อ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกิน “คาวตองแคปซูล” และโครงการวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องของทีมงานของพวกเรา ภาพรวมกลไกการออกฤทธิ์ต่อโรคอัมพฤกษ์และอัมพาตของ “คาวตองแคปซูล” (หรือยาคาวตองแคปซูล )และน้ำสมุนไพรคาวตองที่ผลิตโดยกรรมวิธีการหมักชีวภาพและเพิ่มกรรมวิธีพิเศษบางประการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (หรือยาคาวตองนัมเชนิดน้ำ) น่าจะมาจาก“คาวตองแคปซูล” (หรือยาคาวตองแคปซูล )และน้ำสมุนไพรคาวตองที่ผลิตโดยกรรมวิธีการหมักชีวภาพและเพิ่มกรรมวิธีพิเศษบางประการเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (หรือยาคาวตองชนิดน้ำ) มีสาระสำคัญที่ชื่อ เบต้ากลูแคนที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตและเพิ่มจำนวนสะเต็มเซลล์ให้มากขึ้น สะเต็มเซลล์เป็นเซลล์ตั้งต้นในการสร้างเซลล์อื่นๆของร่างกายได้หลายชนิดซึ่งรวมทั้งเซลล์ประสาท เซลล์ที่เป็นส่วนประกอบของเส้นเลือด เซลล์กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ร่วมกันให้ประสาท กล้ามเนื้อทำงานและมีการเคลื่อนไหวส่วนที่ขยับไม่ได้ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้งหนึ่ง     
                 โรคอัมพฤกษ์อัมพาตเกิดจากหลอดเลือดในสมองอุดตันหรือจากอุบัติเหตุที่ทำให้เส้นประสาทที่นำความรู้สึกเสียหายหรือขาดจนไม่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่เส้นประสาทไปเลี้ยงได้ จากฐานข้อมูลในเว็บไซด์ของ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนโดยนายแพทย์ อ.นพ.ยงชัย  นิละนนท์ ท่านบอกว่าอัมพฤกษ์อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ทั่วโลก และเป็นสาเหตุที่สำคัญของความพิการที่รุนแรง ข้อมูลทางสถิติพบว่าในแต่ละปีมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเกิดใหม่ทั่วโลกราว 10 - 15 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5 ล้านคนเสียชีวิต และอีก 5 ล้านคนกลายเป็นคนพิการอย่างถาวร

             สำหรับในประเทศไทยสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า มีผู้ป่วยใหม่ที่เป็นโรคอัมพาตเกิดขึ้นในประเทศไทยปีละ150,000 ราย  โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการตาย หรือพิการสูงเป็นอันดับ 3  ในเพศชาย รองจากโรคเอดส์และอุบัติเหตุ และสูงเป็นอันดับ 2 ในเพศหญิงรองจากโรคเอดส์  จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่คุกคามต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชากรทั่วโลก

Ammapurk2อัมพฤกษ์อัมพาตหรือโรคหลอดเลือดสมอง แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
             1. สมองขาดเลือด พบประมาณ 70-80% ของผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองเกิดการตีบหรืออุดตัน ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ  เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง  การสูบบุหรี่   ภาวะหัวใจวายหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิด การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  โรคเลือดบางอย่าง เช่น ภาวะเลือดข้นผิดปกติ   เกร็ดเลือดสูง  เม็ดเลือดขาวสูงผิดปกติ  ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอยู่เป็นเวลานานจะเป็นผลให้ผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว เกิดการตีบหรืออุดตัน ทำให้สมองขาดเลือดเกิดอัมพาตตามมาในที่สุด  โดยผู้ป่วยเหล่านี้มักมีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบร่วมด้วย 
             2. หลอดเลือดสมองแตก เมื่อเกิดการแตกของหลอดเลือดสมอง ก้อนเลือดจะเบียดดันเนื้อสมองส่วนที่ดีทำให้เสียหน้าที่เซลล์สมองทำงานผิดปกติ  เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตตามมา ภาวะนี้มักสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน  นอกจากนี้ยังเกิดจากความเครียด  การดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งยาบางชนิด

            จะเห็นได้ว่าโรคอัมพาตและอัมพฤกษ์ มีความน่ากลัวจริงๆ และบางครั้งน่ากลัวกว่าโรคร้ายแรงที่เสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วเสียอีก เพราะโรคร้ายแรงดังกล่าวคร่าชีวิตคนในเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน จบชีวิตก็หมดความทรมาน แต่อัมพาตหรืออัมพฤกษ์ ทำให้คนที่เป็นโรคนี้ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายละจิตใจ หากเราคิดว่าคนที่ทำผิดมหันต์ต้องติดคุกเพื่อเป็นการลงโทษทางสังคม โรคอัมพฤกษ์และอัมพาตก็ทำให้คนที่เคยภูมิใจในตนเองต้องมาติดคุกทางกาย ที่แม้จะมีประสาทสัมผัสอื่นครบถ้วน แต่การที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ ก็เหมือนติดคุกทางกายโดยที่ไม่ต้องมีใครทำกรงมาขัง เกิดความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ตลอดชีวิต...............

              Ammapurk1งานที่ผมทำเรื่องของการพัฒนาสมุนไพรคาวตองมาตั้งแต่ปี 2542 จนกระทั่งปัจจุบันได้พัฒนาเป็นสูตรตำรับสมุนไพรน้ำและแคปซูล จะเป็นการมุ่งเน้นเรื่องการมีสารเบต้ากลูแคนที่ดีในสูตรตำรับ เพื่อใช้กระตุ้นไขกระดูกของร่างกาย ให้ผลิตสะเต็มเซลล์ให้มีปริมาณในกระแสเลือดมากขึ้น สะเต็มเซลล์เป็นเซลล์สำรองที่ร่างกายใช้เพื่อบำบัดสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกาย สะเต็มเซลล์จะรับรู้ว่าอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นแล้วทำให้ร่างกายไม่ทำหน้าที่ ตามที่ได้รับการออกแบบจากธรรมชาติ หรือการตั้งโปรแกรมการทำงานจากยีนส์ สะเต็มเซลล์ก็จะไปซ่อมแซมเพื่อให้ร่างกาย สามารถกลับมาทำหน้าที่เป็นปกติได้เหมือนเดิม จะเห็นได้ว่าเมื่อโรงงานสร้างสะเต็มเซลล์ที่อยู่ตามอวัยวะต่างๆ ร่างกาย โดยเฉพาะที่ไขกระดูกได้รับสัญญานหรือการกระตุ้นจากสารเบต้ากลูแคน ในสูตรตำรับสมุนไพรคาวตอง ร่างกายก็สร้างสะเต็มเซลล์เพิ่มขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของการที่สารเบต้ากลูแคนไปกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตสะเต็มเซลล์ ผมรวบรวมมาจากเอกสารขอยื่นจดสิทธิบัตร ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Ross , Gordon D. และคณะ ที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรไว้ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2551 สะเต็มเซลล์ที่เกิดขึ้นใหม่จะมีคุณภาพดีกว่าก็จะไปเกาะ(Homing) ติดกับเนื้อเยื่อที่เสื่อมและเปลี่ยนแปลงตัวเอง(Differentiate) ให้เป็นสะเต็มเซลล์ประจำถิ่น ของเนื้อเยื่อที่ผิดปกตินั้นๆ แล้วก็แบ่งตัวไปเป็นเซลล์ของอวัยวะนั้น ให้ทำหน้าที่อย่างเป็นปกติ และจากแนวคิดที่นักวิทยาศาสตร์รุ่นเก่าเช่น เรมอน คาจาล ได้วางไว้ตั้งแต่ปี 2471 ว่าเซลล์สมอง(หรือเหมารวมว่าคือเซลล์ประสาททุกชนิด ไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้หลังจากที่คลอดออกมาแล้ว(Cajal SR and May RT.(1959) Degeneration and regeneration of the nervous system. New York, NY.Hafner.p.750.)เป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว ไม่เป็นความจริงแล้วในปัจจุบัน ความจริงในปัจจุบันนี้เราพบว่าเซลล์ประสาทสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา โดยตั้งต้นมาจากเซลล์ที่เราเรียกว่าสะเต็มเซลล์  นั่นหมายความว่าการค้นพบใหม่ๆก็จะช่วยยืนยันคำพูดที่ว่า ทฤษฎีทั้งหลายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ การฟื้นฟูอาการของคนที่เป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตที่สังคมการแพทย์ไม่เคยทำได้รักษาไม่ได้ ก็รักษาได้และทำได้โดยง่าย หากใช้ทฤษฎีและวิธีการใหม่มาประยุกต์ใช้ ไม่ใช่เป็นความคิดฝังแน่นในใจผู้ป่วยในอดีตที่คิดว่า เป็นอัมพาตแล้วจะไม่หาย ต้องนอนรอความตายเหมือนความเชื่อเดิมๆอีกต่อไป ในปี 2543นักวิทยาศาสตร์พบว่าเซลล์สมองมีการแบ่งตัวได้จากสะเต็มเซลล์ที่ตั้งอยู่ในสมองเอง(Singh-Loy N, Wang S, Jiang J, et al. [2000] In Vitro Neurogenesis by progenitor cells isolated from the adult human hippocampus. Nat. Med. 6:271-277. )   ปัจจุบันเราก็พบอีกว่าหลังจากเกิดการตายของเซลล์ประสาทจากโรคลมปัจจุบัน จะเกิดการกระตุ้นให้สะเต็มเซลล์(Neural stem cells)ให้เคลื่อนที่ไปยังจุดที่เสียหายนั้นๆแล้วมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วเพื่อเปลี่ยนไปเป็นเซลล์สมอง(Neural และ glial cell)ที่สามารถทำหน้าที่ได้ด้วย(Schmidt W and KG Reymann. [2002] Proliferating cells differentiate into neurons in the hippocampal CAI region of gerbils after global cerebral ischemia.Neurosci. Lett. 344:153-156.) และก็พบว่าการให้มีจำนวนสะเต็มเซลล์เพิ่มมากขึ้นโดยวิธีอื่นๆเช่นสมุนไพรหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ จะช่วยให้การทำงานของสะเต็มเซลล์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบนั้นจะมีความแรงในการต้านการอักเสบที่ไม่มากนัก ผลก็คือการอักเสบเล็กๆน้อยๆที่เกิดกระจายไปทั่วร่างกายจะถูกบดบังไว้ คงเหลือแต่การอักเสบที่รุนแรง อันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคจะยังคงแสดงอาการให้เห็นอยู่ต่อไป และเป็นตัวส่งสัญญานกระตุ้นให้สะเต็มเซลล์ที่ไหลเวียนในกระแสเลือด เคลื่อนที่มาเกาะติดและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นสะเต็มเซลล์ประจำถิ่น เพื่อทำการซ่อมแซมอวัยวะที่สึกหรอและเสียหายเพียงจุดเดียว ทำให้เกิดการรักษาโรคได้ดีกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ได้กินสมุนไพรคาวตอง(แบบน้ำหรือแคปซูล)นัมเบอร์วันทุกวัน ๆละ 2 ครั้ง เบต้ากลูแคนที่มีคุณสมบัติกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตสะเต็มเซลล์ ก็จะทำให้ร่างกายเรามีสะเต็มเซลล์มากขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่อง ในทางทฤษฎีหากมีจำนวนสะเต็มเซลล์มากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ภายในเวลาประมาณ 1.4 ชั่วโมง สะเต็มเซลล์ที่มากเกินไปจำนวนดังกล่าวจะไหลเวียนกลับไปอยู่ที่ไขกระดูกเหมือนเดิม เราก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเกิดสะเต็มเซลล์มากล้นจากการกินสมุนไพรคาวตอง(แบบน้ำหรือแคปซูล) และก็มีการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ผิดปกติซึ่งในที่นี้คือเซลล์ประสาทที่เสียหายอย่างต่อเนื่องด้วย ในที่สุดเส้นประสาทที่ขาดหรือเสียหายก็อาจจะกลับมาเชื่อมต่อกันอีก เส้นเลือดที่อุดตันก็ได้รับการเปิดทางให้เลือดไหลผ่านได้อีกครั้ง มีการนำสารสื่อประสาทได้และมีการนำสารอาหารผ่านเส้นเลือดที่ได้รับการซ่อมแซมหรือสร้างแขนงเส้นเลือดใหม่ได้อีกครั้ง การรักษาโดยใช้หลักการของสะเต็มเซลล์จึงเป็นการฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายแบบองค์รวมที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาทำงานเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้ป่วยอัมพาตจำนวนมากที่ผมไปพบสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตดีกว่าเดิม ช่วยเหลือตัวเองได้และหลายรายสามารถเดินได้ดีและทำงานได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง ก็มีตัวอย่างที่ผมได้เดินทางไปพบและเก็บข้อมูลมาเพื่อทำวิจัยฯตามที่กล่าวข้างต้นรายการ มีหลายคนทั่วทุกภาคของไทยและ ทางประเทศ สปป.ลาวก็มีกรณีตัวอย่างที่กลับมาเดินได้เหมือนเมืองไทยเช่นกัน

Pin It